เคล็ดลับการเขียน Prompt แบบ 4 ท่อนเพื่อใช้ AI ในการวิจัย

by | 7 Sep 2024

ในยุคดิจิทัลที่ AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิจัยและธุรกิจ ความสามารถของ AI ในการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนและให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำขึ้นอยู่กับวิธีที่เรา “สั่งการ” หรือเขียน Prompt ให้ AI เข้าใจถึงความต้องการของเราอย่างถูกต้อง การเขียน Prompt ที่ดีสามารถช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับการเขียน Prompt แบบ 4 ท่อน ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้คุณใช้ AI ในการวิจัยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทำไมการเขียน Prompt ที่ดีจึงสำคัญครับ?

การใช้ AI อย่างได้ผลต้องอาศัยการสั่งการที่ชัดเจน เนื่องจาก AI ไม่สามารถคิดและตัดสินใจได้เองแบบมนุษย์ หากเราเขียน Prompt ที่คลุมเครือหรือไม่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ได้ตรงกับความต้องการ ดังนั้น การเขียน Prompt ที่มีโครงสร้างและรายละเอียดชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ AI สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม

การเขียน Prompt แบบ 4 ท่อน

การเขียน Prompt แบบ 4 ท่อนนี้ประกอบด้วย: 1) การกำหนดบทบาทสมมุติ (Role Definition), 2) การระบุสถานการณ์หรือขอบเขตงาน (Context and Scope), 3) การกำหนดเป้าหมายของผลลัพธ์ (Desired Output), และ 4) การระบุความต้องการเพิ่มเติม (Additional Requirements) ซึ่งแต่ละท่อนมีบทบาทสำคัญในการสร้างคำสั่งที่มีประสิทธิภาพ เราจะมาดูกันว่าแต่ละท่อนนี้ทำงานอย่างไรบ้าง

ท่อนที่ 1: กำหนดบทบาทสมมุติ (Role Definition)

การกำหนดบทบาทสมมุติให้กับ AI เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้ AI เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ได้ชัดเจนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการให้ AI ช่วยทบทวนวรรณกรรม (literature review) คุณควรกำหนดว่า AI เป็น “ผู้เชี่ยวชาญในการทบทวนวรรณกรรม” การกำหนดบทบาทนี้จะช่วยให้ AI เลือกและนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาใช้ตามความเชี่ยวชาญของมัน

ตัวอย่างการเขียน Prompt:
“โปรดทำหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทบทวนวรรณกรรมและช่วยระบุช่องว่าง หรือ Gaps ในการวิจัยที่น่าสนใจในในเรื่อง Telepharmacy”

ท่อนที่ 2: ระบุสถานการณ์หรือขอบเขตงาน (Context and Scope)

การระบุสถานการณ์หรือขอบเขตงานช่วยให้ AI เข้าใจบริบทของงานที่ต้องทำได้ดียิ่งขึ้น การบอก AI ถึงสิ่งที่คุณกำลังทำและขอบเขตที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้ AI มีข้อมูลพื้นฐานและสามารถให้คำตอบที่ตรงจุดมากขึ้น เช่น กำลังเริ่มทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกในสาขาเทคโนโลยีดิจิทัล และต้องการหาหัวข้อวิจัยที่ใหม่และมีประโยชน์

ตัวอย่างการเขียน Prompt:
“กำลังเริ่มทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกในสาขาเทคโนโลยีดิจิทัลและต้องการหาหัวข้อวิจัยที่มีความใหม่และเป็นประโยชน์ต่อการให้บริการทางเภสัชกรรม”

ท่อนที่ 3: กำหนดเป้าหมายของผลลัพธ์ (Desired Output)

การกำหนดเป้าหมายของผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ AI เข้าใจถึงความคาดหวังของผู้ใช้ เช่น ต้องการหัวข้อวิจัย 5-10 หัวข้อพร้อมคำอธิบายสั้น ๆ ถึงเหตุผลที่ควรวิจัยในหัวข้อนั้น การระบุเป้าหมายเช่นนี้ช่วยให้ AI สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการได้มากขึ้น

ตัวอย่างการเขียน Prompt:
“ต้องการรายการหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจ 5-10 หัวข้อพร้อมคำอธิบายสั้น ๆ ถึงเหตุผลที่ควรวิจัยในหัวข้อนั้น”

ท่อนที่ 4: ระบุความต้องการเพิ่มเติม (Additional Requirements)

การระบุความต้องการเพิ่มเติมเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ช่วยให้ AI ทำงานได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ต้องการให้ AI แนะนำแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องและมีความเชื่อถือได้เพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการทำวรรณกรรมต่อไป

ตัวอย่างการเขียน Prompt:
“โปรดแนะนำแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับหัวข้อที่เลือกเพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการทบทวนวรรณกรรม”

การเลือกใช้ AI ที่เหมาะสม

การเลือกใช้ AI ที่เหมาะสมกับงานของคุณก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ในปัจจุบัน AI มีหลายประเภท เช่น AI สายเขียน (Generative AI : เช่น ChatGPT, Claude.ai) ที่เหมาะสำหรับการสร้างเนื้อหา และ AI สายค้น (Research AI : เช่น scienspace, consensus.ai) ที่เหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูล การผสมผสานการใช้ AI สองสายนี้สามารถช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น ใช้ AI สายค้นเพื่อหาข้อมูลเบื้องต้นและส่งต่อให้ AI สายเขียนสำหรับการสร้างเนื้อหาที่มีความสละสลวย

การใช้ AI อย่างมีจริยธรรม

การใช้ AI อย่างมีจริยธรรมหมายถึงการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและปรับปรุงผลลัพธ์ที่ได้จาก AI ผู้ใช้ไม่ควรให้ AI ทำงานทั้งหมดแทนเรา แต่ควรใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยเสริมในการทำงานบางส่วนและต้องมีการตรวจสอบข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ

ตัวอย่าง: ในการใช้ AI เพื่อทบทวนวรรณกรรม ผู้ใช้สามารถให้ AI แนะนำหัวข้อวิจัยในรูปแบบตารางและตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับเพิ่มเติม หากพบว่ามีข้อมูลที่ไม่ตรงตามต้องการ ผู้ใช้ควรทำการปรับแก้ไขให้มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

กระบวนการทำงานร่วมกับ AI

การทำงานร่วมกับ AI ควรใช้กระบวนการแบบ Iterative (แบบวนซ้ำ) โดยผู้ใช้ควรส่งงานให้ AI ทำในบางส่วน แล้วนำกลับมาปรับปรุง แก้ไข ก่อนส่งไปให้ AI ช่วยต่อ เช่น การให้ AI ช่วยเขียนรายงานผลการวิจัย ผู้ใช้ควรตรวจสอบและแก้ไขงานที่ได้จาก AI ก่อนนำไปใช้จริง

ตัวอย่างการใช้ AI ในการวิจัย

  1. การทบทวนวรรณกรรม: ใช้ AI เพื่อค้นหาข้อมูลเบื้องต้นและสรุปหัวข้อที่น่าสนใจ จากนั้นผู้ใช้ทำการตรวจสอบและปรับปรุง
  2. การเขียนความเป็นมาของการวิจัย: ใช้ AI สายเขียนในการสร้างเนื้อหา แต่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบความถูกต้องและปรับแก้ไขให้เหมาะสม
  3. การวิเคราะห์ผลการวิจัย: ใช้ AI เป็นเครื่องมือสำรองในการตรวจสอบความถูกต้องของการวิเคราะห์ แต่ผู้ใช้ควรทำการวิเคราะห์ด้วยตนเองเป็นหลัก

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • การเก็บ Prompt ที่ดีไว้ใช้ซ้ำสามารถช่วยประหยัดเวลาและพลังงานในการสั่งงาน AI
  • การเทรน AI ให้คุ้นเคยกับงานของเราโดยใช้ AI เดียวกันอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  • การฝึกฝนและปรับปรุงการเขียน Prompt อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ฝึกฝนเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจ

เพื่อให้ผู้อ่านได้ฝึกฝนการเขียน Prompt แบบ 4 ท่อนนี้ ลองคิดและเขียน Prompt ที่ใช้สำหรับการวิจัยในหัวข้อที่คุณสนใจ โดยให้ครอบคลุมทั้ง 4 ท่อน ได้แก่ บทบาทสมมุติ, ขอบเขตงาน, เป้าหมายผลลัพธ์, และความต้องการเพิ่มเติม แล้วตรวจสอบว่า Prompt นั้นสามารถทำให้ AI สร้างผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณได้หรือไม่

คำถามฝึกฝน:

  1. ลองเขียน Prompt เพื่อให้ AI ช่วยทบทวนวรรณกรรมในหัวข้อ “ผลกระทบของเทคโนโลยีทางไกลในในการให้บริการเภสัชกรรม” โดยใช้ 4 ท่อนที่ได้เรียนรู้
  2. ระบุข้อดีของการใช้ AI ในการวิจัย และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ AI ในการวิเคราะห์ผลการวิจัย

การเขียน Prompt อย่างมีประสิทธิภาพและการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมจะช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจาก AI ในการทำวิจัยของคุณครับ.

สรุปบทความทั้งหมดด้วย Mind Mapping

Ready to Connect Innovation and Healthcare?

พร้อมที่จะเชื่อมโยงนวัตกรรมของคุณกับการเข้าถึงสุขภาพที่ดีหรือยังครับ?
ติดต่อเราวันนี้เพื่อปรึกษาว่าเราจะช่วยให้ธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพของคุณเติบโตได้อย่างไร

0 Comments

Ready to Connect Innovation and Healthcare?

พร้อมที่จะเชื่อมโยงนวัตกรรมของคุณกับการสร้างระบบสุขภาพที่ดีหรือยังครับ?

ติดต่อเราวันนี้เพื่อปรึกษาว่าเราจะช่วยให้ธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพของคุณเติบโตได้อย่างไร

คุยกับทีมงาน